One of the trendiest things to do since 2012 is to own an Android device such as tablets. Especially, larger screen size devices (7 to 10" screen size) can be expected to provide more friendly. TTBlog has quality products to fulfill this need of trend. With 7-10" touch screen, runs on Android Windows platform and full of tablet PC applications. This new device can be used for multi-media and Internet service. Most of product support 3G , 4G and WiFi, is your best mobility device than ever.
แท็บเล็ต แ i-Note
หลายคนคงเคยได้ยินชื่อ i-Note กันมายาวนาน ก่อนที่ทางไอโมบายจะเปิดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ คงย้อนไปตั้งแต่ปีที่ผ่านมา หลังจากที่ทางแอปเปิลเปิดตัวไอแพด ไอโมบายเป็นแบรนด์หนึ่งที่ให้ข้อมูลว่าพร้อมทำตลาดแท็บเล็ตในประเทศไทย
จนในที่สุดเมื่อระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ สามารถพัฒนาให้เข้ากับตัวเครื่องของ i-Note เรียบร้อยแล้ว ไอโมบาย จึงประกาศเปิดจองและพร้อมวางจำหน่ายในราคา 11,900 บาท ชูจุดเด่นที่เป็นแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้ว ที่สามารถดูทีวีได้
และก็ต้องยอมรับว่าเครือสามารถ เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่มีคอนเทนต์อยู่ภายใต้บริการเป็นจำนวนมาก เมื่อมีการเปิดตัวแท็บเล็ตที่เป็นอุปกรณ์พกพาเพื่อใช้งานรับข้อมูลข่าวสาร เป็นหลัก จึงทำให้ทีมพัฒนาต้องมีการลงทุนในการทำให้ i-Note สามารถเข้าถึงคอนเทนต์เดิมในกลุ่มสามารถ ผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการรับข่าวสาร ช้อมูลหุ้น ราคาทอง น้ำมัน และอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมาก
Feature On i-mobile i-Note
ในหน้าจอหลักของ i-Note ประกอบไปด้วยหน้าต่างทั้งหมด 7 หน้า ที่ให้ผู้ใช้เลือกนำวิดเจ็ตต่างๆ มาใส่ได้ตามความต้องการ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของแอนดรอยด์ แต่ในขณะเดียวกัน ไอโมบาย ได้มีการพัฒนาธีมมาให้ผู้ใช้เลือกตามรูปแบบการใช้งานคือธีมธุรกิจ ที่มีการดึงวิตเจ็ตเกี่ยวกับธุรกิจขึ้นมาไว้รวมกัน ธีมไลฟ์สไตล์ ที่รวบรวมวิตเจ็ตเบาๆ อย่างทำนายดวง กรอบรูปภาพ และสุดท้ายธีมท่องเที่ยว ที่ดึงวิตเจ็ตเด่นของเว็บไซต์ EDTguide มาให้ใช้งานกัน
การที่จะให้ผู้ใช้เข้าถึงแอปพลิเคชันเฉพาะสำหรับทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ของไอโมบาย จึงจำเป็นที่จะต้องมีแอปฯ ที่รวบรวมแอปฯ ที่โดดเด่นและมีความน่าสนใจภายใต้ชื่อ Appcafe ที่ภายในนอกจากจะมีแอปฯ ธุรกิจอย่าง Smart news วิตเจ็ตสำหรับดูอัตราค่าแลกเปลี่ยน ราคาทอง ราคาน้ำมัน และสภาพอากาศแล้ว ยังมีส่วนแนะนำแอปฯภายในแอนดรอยด์มาเก็ตให้ผู้ใช้เข้าไป เลือกโหลดแอปฯที่สนใจอีกด้วย
ไม่ใช่มีเพียงแค่ Appcafe ไอโมบายยังได้มีการใส่ App Explorer ที่เป็นแหล่งรวบรวมแอปฯที่พัฒนาขึ้นบน จาวา และสามารถนำมาใช้งานบนแอนดรอยด์ได้ รวมถึง App Manager ที่มีไว้ช่วยจัดการแอปฯพลิเคชันภายในเครื่อง
ฟีเจอร์ที่โดดเด่นที่สุดของ i-Note คงหนีไม่พ้น ทีวีอนาล็อก ที่รับสัญญาณผ่านเสาอากาศ ที่มีการตั้งช่องให้อัตโนมัติตามสไลต์ของไอโมบาย โดยประกอบไปด้วยช่องมาตรฐาน 3 5 7 MCOT NBT และ ทีวีไทย การเปลี่ยนช่องสามารถทำได้โดยสัมผัสที่หน้าจอ รวมถึงการย่อขยาย เลือกช่อง เพิ่มลดเสียง ส่วนในหน้าจอตั้งค่ามีไว้เพื่อเลือกประเทศ ตั้งให้เล่นอัตโนมัติ และปรับเสียง
วิทยุเอฟเอ็มของ i-Note ไม่จำเป็นต้องใช้งานร่วมกับสายหูฟัง เนื่องจากตัวเครื่องมีเสาอากาศรับสัญญาณมาให้ รูปแบบการใช้งานเป็นแบบง่ายๆ สามารถเปลี่ยนคลื่นโดยลากแถบสีเขียวล่างสุดไปตรงคลื่นที่ต้องการ โดยจะมีแถบแสดงคุณภาพสัญญาณอยู่กลางหน้าจอ สามารถบันทึกคลื่นที่ต้องการได้ สั่งปิดเสียง และเลือกคลื่นที่บันทึกไว้ได้จากปุ่มควบคุม
ถัดมาเป็นแอปฯที่น่าสนใจสำหรับคนเล่นหุ้นด้วย Stock Streaming ที่ผู้ใช้สามารถเข้าไปเลือกดูหุ้นตัวที่เล่นอยู่ ดูภาพรวมตลาดหลักทรัพย์ล่าสุด รวมถึงแบ่งแยกตามอุตสาหกรรม และยังสามารถสร้างพอร์ตโฟลิโอของตนเอง เข้าไปดูข่าวจากฟีดข่าว แน่นอนว่าในการใช้งานจำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วสูงระดับ หนึ่ง และทำได้เพียงดูข้อมูลเท่านั้น ยังไม่สามารถล็อกอินเข้าไปแลกเปลี่ยนได้
ภายในแอปฯ Smart News ใช้รูปแบบการดึงข่าวที่น่าสนใจจากเว็บไซต์ข่าวหลายๆแห่ง ให้ผู้ใช้ได้เข้าไปเลือกอ่าน ซึ่งเมื่อกดเข้าไปในข่าว ตัวแอปฯจะลิงก์ไปยังหน้าเว็บไซต์ปกติ ไม่ได้ดึงข้อมูลมาแสดงภายในตัวแอปฯ ขณะเดียวกันยังสามารถเลือกประเภทข่าวที่สนใจได้
แอปฯทำนายดวงจาก Horoworld ก็ถูกดึงมาไว้ให้ใช้งานกันภายใน i-Note โดยแบ่ง ประเภทการดูออกเป็น ฤกษ์ดี ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ฤกษ์ออกรถ ฤกษ์คลอดบุตร ดูดวงประจำวัน จากวันเดือนปีเกิด ดูราศีที่ชงกัน ที่น่าสนใจคือตัวแอปฯ ออกแบบมาให้สามารถแชร์ข้อมูลไปยังเครือข่ายสังคมอย่างเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ ได้ทันที
EDTguide ที่ i-Note นำมาเป็นบริการค้นหาสถานที่ท่องเทียว ส่วนใหญ่จะใช้การดึงข้อมูลมาจากหน้าเว็บไซต์ แบ่งประเภท กิน ดื่ม เที่ยว และยังเข้าไปดูรีวิว แคมแปญพิเศษได้จากภายในแอปฯ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแอปฯที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถหาที่กิน ดื่ม เที่ยว ในสถานที่ใกล้ๆได้ง่ายขึ้น
ถ้าต้องการดูสภาพอากาศ หรืออ่านข่าวต่างประเทศ ผู้ใช้สามารถเข้าไปในแอปฯที่มากับเครื่องอย่าง News & Weather เพื่อตรวจสอบสภาพอากาศ รวมถึงอ่านข่าวที่น่าสนใจจากต่างประเทศ ซึ่งใครที่เคยใช้แอนดรอยด์คงมีความคุ้นเคยกับแอปฯนี้กันอยู่แล้วในระดับ หนึ่ง
แน่นอนว่าตัว i-Note ที่สามารถใส่ซิมการ์ดได้นั้น ช่วยให้สามารถใช้งานเป็นโทรศัพท์ได้ด้วย โหมดการใช้งานโทรศัพท์มีระบบเดาหมายเลขจากรายชื่อผ่านตัวอักษรหรือตัวเลขที่ กดช่วยให้สามารถใช้โทร.ได้รวดเร็วขึ้น ปุ่มตัวเลขเมื่อเทียบกับขนาดจอของแท็บเล็ตนั้นเรียกว่าใหญ่ชัดเจน ไม่ต้องกังวลกดผิดกันเลยทีเดียว
แต่ในการใช้งานโทรศัพท์ ผู้ใช้หลายๆรายคงไม่อยากนำแท็บเล็ตขึ้นมาแนบกับหูแน่ๆ เพราะนอกจากจะเป็นจุดเด่นแล้ว คนเห็นหลายๆคนคงนึกว่ามีอาการโรคจิตกันได้ ทางแก้คงอยู่ที่หาหูฟังมาเสียบใช้ หรือไม่ก็ใช้การเชื่อมต่อบลูทูธในการใช้งานโทรศัพท์แทน
เว็บเบราว์เซอร์สามารถแสดงผลแฟลชได้ ความเร็วในการแสดงผลอยู่ในระดับปานกลาง เนื่องจากสเปกของตัวเครือง i-Note นั้นไม่ได้สูงมากนัก แต่ถือว่าอยู่ในระดับที่พอรับได้ สามารถใช้มัลติทัชในการซูมเข้า-ออก หรือกดจากปุ่ม ทั้งนี้การใช้งานถือว่าเป็นไปตามมาตรฐานของแอนดรอยด์ เวอร์ชัน 2.2
ในโหมดกล้องเนื่องจากตัวเครื่องมีทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ทำให้สามารถเข้าไปเลือกตัวกล้องที่ใช้ รวมถึงปรับแต่งได้ตามรูปแบบมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นค่าสมดุลแสง อุณหภูมิแสง ระบบโฟกัส สามารถเลือกให้บันทึกพิกัดลงไปในรูปถ่ายหรือไม่ โดยมีปุ่มชัตเตอร์อยู่มุมซ้ายล่างของหน้าจอ ส่วนในโหมดถ่ายวิดีโอ มีความละเอียดให้เลือกคือ สูง ต่ำ ข้อความมัลติมีเดีย และวิดีโอสำหรับอัปโหลดขึ้นยูทูบ
เมนูรวมทั้งหมดที่ให้มากับตัวเครื่อง ผู้ใช้สามารถเข้าไปใน App Cafe เพื่อดูแอปฯแนะนำตามที่กล่าวไว้ข้างต้น หรือดาวน์โหลดแอปฯเพิ่มผ่านแอนดรอยด์มาเก็ตได้ทันที ทั้งนี้แอปฯที่ให้มาในเครื่องส่วนใหญ่จะเป็นแอปฯพื้นฐานที่มีกันอยู่แล้วใน แอนดรอยด์ทุกๆ เครื่อง
หน้าจอการตั้งค่ามีการใส่สีให้ดูแล้วสดใสหน้าสนใจมากขึ้น โดยยังแบ่งการตั้งค่าออกเป็น การเชื่อมต่อ โทรศัพท์ เสียง การแสดงผล ความปลอดภัย แอปพลิเคชัน บัญชีผู้ใช้และการซิงค์ข้อมูล หน่วยความจำ ภาษา การสั่งงานผ่านเสียง ตั้งวันเวลา และดูข้อมูลของตัวเครื่อง
โดยตัว i-Note มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เวอร์ชัน 2.2.2 ที่รู้กันว่ามีความสามารถในการส่งสัญญาณการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไปยัง อุปกรณ์เชื่อมต่ออื่นๆ รวมถึงความสามารถในการลงแอปพลิเคชันในหน่วยความจำ และปรับแต่งระบบภายในให้มีความรวดเร็วขึ้นจากรุ่นเดิม ซึ่งแน่นอนว่าทั้งหมดทำขึ้นมาสำหรับสมาร์ทโฟน
ส่วนของหน่วยประมวลผลที่ใช้ภายใน i-Note เป็น Marvell PXA 955 ความเร็ว 800 MHz ซึ่งน่าจะมีการนำสถาปัตยกรรมจาก ARMv7 เข้ามาใช้ภายในจึงทำให้โปรแกรมแสดงผลตามรูป ส่วน ROM / RAM ที่ให้มามีขนาด 512 MB สามารถรองรับการสัมผัสแบบมัลติทัชได้ 2 จุด
ผลการทดสอบประสิทธิภาพบนโปรแกรม Quadrant พบว่า i-Note สามารถทำคะแนนได้ 694 คะแนนเท่านั้น ซึ่งถือว่าค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับ Galaxy Tab ของซัมซุงที่เพิ่งมีการปรับราคาลงมาอยู่ในช่วงใกล้เคียงกัน ขณะที่การทดสอบบน An3DBench และ An3DBenchXL อยู่ที่ 4494 และ 8232 ส่วน Neocore ได้เฟรมเรทอยู่ที่ 30.1 FPS
Design of i-mobile i-Note
ดีไซน์ของแท็บเล็ตในตระกูลแอนดรอยด์รวมถึง i-Note เรียกว่ายังไม่มีความแปลกใหม่ล้ำหน้าใดๆ เน้นความใหญ่ของหน้าจอกับน้ำหนักในการถือใช้งานที่ไม่หนักจนเกินไป ตัววัสดุที่ใช้เป็นพลาสติกคุณภาพสูงทำ การประกอบของตัวเครื่องอยู่ในระดับมาตรฐานของไอโมบายตัวเครื่องมีขนาดรอบตัว อยู่ที่ 192.4 x 125 x 14 มิลลิเมตร น้ำหนัก 470 กรัม
ด้านหน้า - ประกอบไปด้วยหน้าจอสัมผัสแบบ Capacitive ขนาด 7 นิ้ว ความละเอียด WVGA (800 x 480 พิกเซล) 16 ล้านสี มีกล้องหน้าความละเอียด VGA และเซ็นเซอร์ตรวจวัดแสงอยู่บริเวณมุมขวาบนหน้าจอ ส่วนล่างหน้าจอประกอบไปด้วยปุ่มควบคุม ไล่ตั้งแต่ เมนู ค้นหา หน้าแรก และ ย้อนกลับ ซึ่งต้องยอมรับว่าความที่ทางกูเกิลไม่ได้กำหนดมาตรฐานของปุ่มมา ทำให้เครื่องที่ใช้แอนดรอยด์แต่ละเครื่องมีการจัดวางปุ่มที่ไม่เหมือนกัน ส่งผลให้ในการใช้งานอาจเกิดความสับสนได้
ด้านหลัง - ถูกดีไซน์ให้เรียบๆ มีกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล อยู่กึ่งกลางบน สกรีนตัวอักษรระบุยี่ห้อ "i-mobile" และลำโพงสนทนาอยู่กึ่งกลางค่อนลงมาส่วนล่าง เมื่อเปิดฝาหลังออกมาจะพบกับช่องใส่แบตเตอรีความจุ 3,800 mAh ช่องใส่ซิมการ์ด และช่องเสียบไมโครเอสดีแบบที่สามารถถอดได้โดยไม่จำเป็นต้องปิดเครื่อง
ด้านบน - มีปุ่มเปิดเครื่อง และช่องเสียบสายไมโครยูเอสบี สำหรับชาร์จและเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ และมีเสาอากาศที่ใช้ในการรับชมโทรทัศน์และฟังวิทยุซ่อนอยู่บริเวณขอบฝั่ง ขวา ด้านขวา - มีเพียง ปุ่มปรับระดับเสียงเท่านั้น ด้านล่าง - เป็นช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ขณะที่ด้านซ้ายถูกปล่อยว่างไว้
บทสรุป
หลังจากได้ใช้งาน i-Note มาระยะเวลาหนึ่ง สิ่งที่รู้สึกได้เลยคือตัวเครื่องรองรับความสามารถของแอนดรอยด์ค่อนข้างครบ แต่เนื่องจากความที่ยังเป็นแอนดรอยด์เวอร์ชัน 2.2 ทำให้การใช้งานยังไม่ค่อนลื่นไหลเท่าที่ควร แม้ว่าสเปกจะคล้ายคลึงกับ Galaxy Tab ที่มีความสามารถใช้งานใกล้เคียงกัน
ความสามารถในการรับชมทีวีอนาล็อก จึงกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ i-Note มีความโดดเด่นมากกว่าคู่แข่งแบรนด์อื่นๆ แต่อย่างที่รู้กันว่าคุณภาพของทีวียังขึ้นอยู่กับสถานที่ในการรับสัญญาณทำ ให้ความคมชัดไม่มากเท่าที่ควร
ตัวเครื่อง i-Note รองรับการใช้งาน 3G บนคลื่นความถี่ 900/2100 MHz ความเร็วดาวน์โหลดอัปโหลดสูงสุดที่ 7.2/5.76 Mbps รวมกับความสามารถในการเชื่อมต่อไวไฟ บลูทูธ จีพีเอส วิทยุเอฟเอ็มแบบไม่ต้องพึ่งหูฟัง (ใช้เสาอากาศเดียวกับโทรทัศน์) ถือว่าให้มาค่อนข้างครบ
ในแง่ของการใช้งานทั่วไป แท็บเล็ตยังมีข้อจำกัดในการใช้งานค่อนข้างเยอะ แต่ด้วยความที่เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการรับข้อมูลข่าวสาร การนำคอนเทนต์ต่างๆ ในเครือสามารถเข้ามาผนวกกับแอปฯที่พัฒนาขึ้น จึงช่วยให้ i-Note เหมาะกับทั้งผู้ใช้งานทั่วไปและนักธุรกิจ
ทั้งนี้ตัวเครื่องที่ได้มาทดสอบยังใช้ซอฟต์แวร์รุ่นที่อาจมีการเปลี่ยนแปลง เมื่อวางจำหน่าย แต่ในส่วนของฮาร์ดแวร์เชื่อว่าน่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ โดยราคาเปิดตัวของ i-Note อยู่ที่ 11,900 บาท
ขอชม
- แท็บเล็ต แอนดรอยด์ ขนาด 7 นิ้ว ดูทีวีได้
- ดึงคอนเทนต์ในกลุ่มสามารถฯ มาให้บริการผู้ใช้ รวมถึงดูหุ้น
- โทรศัพท์ได้ มีกล้องหน้า และเป็นไวไฟ ฮอตสปอตได้จากความสามารถของ 2.2
ขอติ
- ออกมาวางจำหน่ายช้าเกินไป เนื่องจากแท็บเล็ตรายอื่นลดราคามาใกล้เคียงกันในประสิทธิภาพที่สูงกว่า
- ไม่มีความชัดเจนในด้านการพัฒนาเฟิร์มแวร์ว่าจะสามารถใช้ แอนดรอยด์ 3.0 ในอนาคตได้หรือไม่
- โทรทัศน์ที่รับชมไม่คมชัดเท่าในโทรศัพท์ อาจเกิดจากความละเอียดหน้าจอที่สูงขึ้น
ที่มา http://siamtablet.com